รีวิวหนัง
โดย:
นานา
[IP: 116.212.148.xxx]
เมื่อ: 2023-03-23 11:46:08
ดูหนังออนไลน์
Bullet Train
เรื่องนี้เป็นหนังแนวที่ผมเรียกว่าแนวจับคนดวงซวยมาเจอกัน หนังจะไม่ตัวหลักหลายกลุ่มที่ดูเผินๆ แล้วแต่ละกลุ่มไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ แต่ละคนต่างทำภารกิจของตัวเอง แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่แต่ละคนทำมันดันไปสร้างความเดือดร้อนให้ตัวหลักอีกกลุ่มจนได้ จนกลายเป็นความวุ่นวายเมื่อแต่ละคนต้องหาทางเอาตัวรอดจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น หรือจะเรียกกันแบบสั้นๆ มันคือหนังแนว Guy Ritchie นั่นแหละ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าคนทำยังมือไม่ถึงเท่าไหร่ ออกมาเป็นหนังที่ดูเพลินๆ จบแล้วจบกันไม่มีอะไรค้างคา มีจุดเด่นอยู่ที่ฉากบู๊ที่ถือว่าทำได้เกินมาตรฐาน แต่ไม่ได้โดดเด่นจนน่าจดจำอะไรครับนักฆ่าขี้กังวลถูกได้รับมอบหมายภารกิจ ขึ้นรถไฟหัวกระสุนไปรับพัสดุ และส่งพัสดุที่สถานีปลายทาง ภารกิจดูเหมือนจะง่ายๆ ไม่มีอะไร แต่ซวยบังเกิดเมื่อเขาไม่ใช่นักฆ่าคนเดียวบนรถไฟ และภารกิจของแต่ละคนดันมาขัดขวางกันเอง พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้ภารกิจสำเร็จบนรถไฟความเร็วสูงที่ไม่มีทางให้หนี
รีวิวหนัง disney
รีวิว Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักล่า"จะเป็นอย่างไรหากรถไฟขบวนหนึ่งเต็มไปด้วยนักฆ่า?"
Bullet Train เป็นหนังที่ตอนแรกทำให้เดินเข้าไปในโรงหนังด้วยเหตุผลที่ว่า เห็นรายชื่อนักแสดงที่คับคั่งไปด้วยดาราคุ้นหน้าคุ้นตา กับมีชื่อผู้กำกับ David Leitch จาก Joh Wick, Deadpool 2 และ Atomic Blonde แปะอยู่ตัวโต ๆ ทำให้คาดหวังว่ามันจะเป็นตัวการันตีว่าหนังเรื่องนี้อย่างน้อยก็สนุกและมาพร้อมฉากแอ็กชันอัดแน่นอยู่เพียบ แต่...ดูเหมือนว่ามันจะเกินคาดไปไกล มันมีทั้งความเท่ตั้งแต่ตัวละคร, เนื้อเรื่อง, ฉากต่อสู้ และสไตล์การนำเสนอที่จัดจ้านจี๊ดจ๊าดในแบบแอ็กชันดาร์กคอเมดี้ นี่คือหนังที่ทำให้ Brad Pitt ได้มีโอกาสเฉิดฉายอย่างโดดเด่นอีกครั้ง จนไม่แปลกใจหากใครจะมองว่านี่คือหนังและบทบาทหนึ่ของ Brad Pitt ที่น่าจดจำที่สุด ส่วนนักแสดงคนอื่นเอง อย่าง Aaron และ Brian ที่รับบทเป็นฝาแฝดเองก็ได้โอกาสโชว์ฝีมือการแสดงและความเกรี้ยวกราดอย่างเต็มสูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชิเหน๋ที่โดดเด่นด้วยความเท่แบบคมคาย จนขโมยซีน Brad Pitt ไปหลายนาทีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ให้ในสิ่งที่สัญญาตั้งแต่ในตัวอย่างและใบปิดคือเรื่องของสไตล์นำเสนอที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายฝรั่งในดินแดนอาทิตย์อุทัย, บทสนทนาและมุกตลกสไตล์หนัง Quentin Tarantino, ฉากแอ็กชันที่ทั้งสมจริงและโอเว่อร์แต่ชวนลุกขึ้นปรบมือ และความสนุกกับความเข้มข้นที่ยิ่งเปลี่ยนผ่านจากองก์แรกสู่องก์สอง องก์สองสู่องก์สาม ก็ยิ่งทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกันความถูกอกถูกใจตัวละคร (ไม่ว่าจะชอบหรือจะแช่งก็ตาม) ก็ได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน Bullet Train มีข้อเสียตรงที่ ถึงแม้จะน่าสนใจตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องจนยาวมาถึงฉากจบ แต่พาร์ทแรกอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะจุดติด และมุกตลกร้ายในหนังเรื่องนี้อาจไม่ได้โดนเส้นทุกคนได้ขนาดนั้น (แต่ครึ่งหลังมันคือมหกรรมความสนุกดี ๆ นี่เองครับ) เพราะหากความสนุกและความอินคือการที่เรารู้สึก relate กับตัวละครจนเข้าใจมุมมองและความรู้สึกนึกคิดตัวละครอย่างถ่องแท้แล้ว ความมีเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครจะทำให้คุณหลงรักและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างเร้าใจพอ ๆ กับความเร็วของรถไฟในหนัง อย่างที่เกิร่นไว้ในตอนต้นว่าหนังเกินคาดไปไกล คือตัวบทที่มีความน่าสนใจกว่าการเป็นหนังที่จับนักฆ่ามาอยู่ในรถไฟคันเดียวกันเป็นอย่างมาก นอกจากจะมีการเชื่อมโยงที่ดี กับมีคาแร็กเตอร์ที่แบ็คกราวน์แน่นแล้ว บทหนังยังพาเราไปยังที่ที่ตัวมันเองต้องการจะพาไป โดยไม่ให้คนดูเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรข้างหน้าบ้าง และตัวละครจะอยู่หรือตาย (แน่นอนว่าหลายตัวละครเรียกได้ว่าพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ!) และที่ยอดเยี่ยมที่สุด คือการนำคอนเซปต์เรื่องโชคลาง ชะตากรรมและการพบพาน ความแค้นและการปล่อยวาง มาตีแผ่บนโต๊ะต่อหน้าอย่างชาญฉลาด BULLET TRAIN คือหนังที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง ที่ขนนักแสดงระดับ Top มากมายมาดวลเดือดกันอย่างคุ้มค่า และตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเห็นหนังแอ็กชันที่มีดีมากกว่าฉากบู๊เดือด เพราะสไตล์หนังเรื่องนี้นับว่าดุเด็ดเผ็ดร้อน ทั้งด้านการกำกับ บท การแสดง การออกแบบตัวละคร และความวินาศของชะตากรรมเหล่าตัวละครในเรื่องที่เราดูแล้วต้องมองว่าสนุกดี ตลกร้ายมาก แต่ตัวละครกุมขมับกันทั้งเรื่อง
ดูหนังออนไลน์
Bullet Train
เรื่องนี้เป็นหนังแนวที่ผมเรียกว่าแนวจับคนดวงซวยมาเจอกัน หนังจะไม่ตัวหลักหลายกลุ่มที่ดูเผินๆ แล้วแต่ละกลุ่มไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ แต่ละคนต่างทำภารกิจของตัวเอง แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่แต่ละคนทำมันดันไปสร้างความเดือดร้อนให้ตัวหลักอีกกลุ่มจนได้ จนกลายเป็นความวุ่นวายเมื่อแต่ละคนต้องหาทางเอาตัวรอดจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น หรือจะเรียกกันแบบสั้นๆ มันคือหนังแนว Guy Ritchie นั่นแหละ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าคนทำยังมือไม่ถึงเท่าไหร่ ออกมาเป็นหนังที่ดูเพลินๆ จบแล้วจบกันไม่มีอะไรค้างคา มีจุดเด่นอยู่ที่ฉากบู๊ที่ถือว่าทำได้เกินมาตรฐาน แต่ไม่ได้โดดเด่นจนน่าจดจำอะไรครับนักฆ่าขี้กังวลถูกได้รับมอบหมายภารกิจ ขึ้นรถไฟหัวกระสุนไปรับพัสดุ และส่งพัสดุที่สถานีปลายทาง ภารกิจดูเหมือนจะง่ายๆ ไม่มีอะไร แต่ซวยบังเกิดเมื่อเขาไม่ใช่นักฆ่าคนเดียวบนรถไฟ และภารกิจของแต่ละคนดันมาขัดขวางกันเอง พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้ภารกิจสำเร็จบนรถไฟความเร็วสูงที่ไม่มีทางให้หนี
รีวิวหนัง disney
รีวิว Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักล่า"จะเป็นอย่างไรหากรถไฟขบวนหนึ่งเต็มไปด้วยนักฆ่า?"
Bullet Train เป็นหนังที่ตอนแรกทำให้เดินเข้าไปในโรงหนังด้วยเหตุผลที่ว่า เห็นรายชื่อนักแสดงที่คับคั่งไปด้วยดาราคุ้นหน้าคุ้นตา กับมีชื่อผู้กำกับ David Leitch จาก Joh Wick, Deadpool 2 และ Atomic Blonde แปะอยู่ตัวโต ๆ ทำให้คาดหวังว่ามันจะเป็นตัวการันตีว่าหนังเรื่องนี้อย่างน้อยก็สนุกและมาพร้อมฉากแอ็กชันอัดแน่นอยู่เพียบ แต่...ดูเหมือนว่ามันจะเกินคาดไปไกล มันมีทั้งความเท่ตั้งแต่ตัวละคร, เนื้อเรื่อง, ฉากต่อสู้ และสไตล์การนำเสนอที่จัดจ้านจี๊ดจ๊าดในแบบแอ็กชันดาร์กคอเมดี้ นี่คือหนังที่ทำให้ Brad Pitt ได้มีโอกาสเฉิดฉายอย่างโดดเด่นอีกครั้ง จนไม่แปลกใจหากใครจะมองว่านี่คือหนังและบทบาทหนึ่ของ Brad Pitt ที่น่าจดจำที่สุด ส่วนนักแสดงคนอื่นเอง อย่าง Aaron และ Brian ที่รับบทเป็นฝาแฝดเองก็ได้โอกาสโชว์ฝีมือการแสดงและความเกรี้ยวกราดอย่างเต็มสูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชิเหน๋ที่โดดเด่นด้วยความเท่แบบคมคาย จนขโมยซีน Brad Pitt ไปหลายนาทีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ให้ในสิ่งที่สัญญาตั้งแต่ในตัวอย่างและใบปิดคือเรื่องของสไตล์นำเสนอที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายฝรั่งในดินแดนอาทิตย์อุทัย, บทสนทนาและมุกตลกสไตล์หนัง Quentin Tarantino, ฉากแอ็กชันที่ทั้งสมจริงและโอเว่อร์แต่ชวนลุกขึ้นปรบมือ และความสนุกกับความเข้มข้นที่ยิ่งเปลี่ยนผ่านจากองก์แรกสู่องก์สอง องก์สองสู่องก์สาม ก็ยิ่งทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกันความถูกอกถูกใจตัวละคร (ไม่ว่าจะชอบหรือจะแช่งก็ตาม) ก็ได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน Bullet Train มีข้อเสียตรงที่ ถึงแม้จะน่าสนใจตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องจนยาวมาถึงฉากจบ แต่พาร์ทแรกอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะจุดติด และมุกตลกร้ายในหนังเรื่องนี้อาจไม่ได้โดนเส้นทุกคนได้ขนาดนั้น (แต่ครึ่งหลังมันคือมหกรรมความสนุกดี ๆ นี่เองครับ) เพราะหากความสนุกและความอินคือการที่เรารู้สึก relate กับตัวละครจนเข้าใจมุมมองและความรู้สึกนึกคิดตัวละครอย่างถ่องแท้แล้ว ความมีเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครจะทำให้คุณหลงรักและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างเร้าใจพอ ๆ กับความเร็วของรถไฟในหนัง อย่างที่เกิร่นไว้ในตอนต้นว่าหนังเกินคาดไปไกล คือตัวบทที่มีความน่าสนใจกว่าการเป็นหนังที่จับนักฆ่ามาอยู่ในรถไฟคันเดียวกันเป็นอย่างมาก นอกจากจะมีการเชื่อมโยงที่ดี กับมีคาแร็กเตอร์ที่แบ็คกราวน์แน่นแล้ว บทหนังยังพาเราไปยังที่ที่ตัวมันเองต้องการจะพาไป โดยไม่ให้คนดูเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรข้างหน้าบ้าง และตัวละครจะอยู่หรือตาย (แน่นอนว่าหลายตัวละครเรียกได้ว่าพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ!) และที่ยอดเยี่ยมที่สุด คือการนำคอนเซปต์เรื่องโชคลาง ชะตากรรมและการพบพาน ความแค้นและการปล่อยวาง มาตีแผ่บนโต๊ะต่อหน้าอย่างชาญฉลาด BULLET TRAIN คือหนังที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง ที่ขนนักแสดงระดับ Top มากมายมาดวลเดือดกันอย่างคุ้มค่า และตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเห็นหนังแอ็กชันที่มีดีมากกว่าฉากบู๊เดือด เพราะสไตล์หนังเรื่องนี้นับว่าดุเด็ดเผ็ดร้อน ทั้งด้านการกำกับ บท การแสดง การออกแบบตัวละคร และความวินาศของชะตากรรมเหล่าตัวละครในเรื่องที่เราดูแล้วต้องมองว่าสนุกดี ตลกร้ายมาก แต่ตัวละครกุมขมับกันทั้งเรื่อง
ดูหนังออนไลน์
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments